กทม.ยื่นอุทธรณ์คดี”ซอยร่วมฤดี”แล้ว

สำนักงานเขตปทุมวันส่งทนาย ยื่นอุทธรณ์คดี”ซอยร่วมฤดี” หลังศาลพิพากษา ให้รื้อถอนอาคารโรงแรมดิเอทัส เหตุก่อสร้างอาคารสูงเเกินขนาด

หลังจากเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ศาลปกครองได้มีคำสั่งให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)และผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ให้รื้อถอนอาคารโรงแรมดิเอทัส ซอยร่วมฤดี เนื่องมาจากมีประชาชนผู้อาศัยในซอยร่วมฤดีได้ยื่นฟ้อง บริษัท ลาภประทานฯและบริษัท ทับทิมทรฯ ได้ก่อสร้างอาคารสูงใหญ่เกินกว่ากฎหมายกำหนดและมีซอยกว้างไม่เกิน 10 เมตร ซึ่งจะครบกำหนดการยื่นอุทธรณ์ 30 วันในวันที่ 9 มี.ค.นี้

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มี.ค. นางภาวิณี อามาตย์ทัศน์ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้เขตปทุมวันได้ส่งความโต้แย้งคำพิพากษาไปยังสำนักงานกฎหมายและคดี กทม.เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดแล้ว และส่งต่อไปยังอัยการ เพื่ออุทธรณ์คดีซอยร่วมฤดี แต่ไม่ทราบว่าทางอัยการจะส่งเรื่องอุทธรณ์แล้วหรือไม่ เนื่องจากจะครบกำหนดอุทธรณ์ 30 วันในวันที่ 9 มี.ค.นี้ ส่วนข้อมูลการอุทธรณ์เป็นอย่างไร อยู่ที่อัยการทั้งหมด

 

แหล่งข่าวจากฝ่ายบริการกทม.เปิดเผยว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้นฝ่ายการเมืองได้สั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อกฎหมายตั้งแต่วันที่ศาลปกครองมีคำตัดสินให้กทม.และเอกชนแพ้คดี ซึ่งทางฝ่ายการเมืองก็ไม่ได้รู้สึกหนักใจ เนื่องจากไม่ได้เกี่ยวข้องกับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.โดยตรง เพราะเป็นเรื่องร้องเรียนที่เกิดขึ้นในสมัยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าฯกทม. หากจะมีผู้รับผิดน่าจะเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คงไม่ใช่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กับผู้อำนวยการเขตปทุมวันคนปัจจุบัน

 

รายงานข่าวสำนักงานกฎหมายและคดี กทม. แจ้งว่าสำหรับความคืบหน้าการยื่นอุทธรณ์ว่า ขณะนี้ทางสำนักงานกฎหมายและคดี กทม.ได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ต่อศาลผ่านไปยังอัยการแล้ว เพราะผู้บริหารเห็นว่าคดีนี้เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งกทม.ได้ตั้งคณะกรรมการมาร่วมลงความเห็น และพิจารณาข้อกฎหมายอย่างรอบด้าน เพื่อทำการร่างอุทธรณ์ขึ้นมา

 

รายงานข่าวระบุอีกว่า ส่วนข้อต่อสู้ชั้นอุทธรณ์จะเป็นอย่างไรและมีข้อมูลมากแค่ไหนนั้น ทางสำนักกกฎหมายและคดีไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นข้อกฎหมายโดยตรง ขณะที่ความมั่นใจกับข้อมูลการอุทธรณ์ขนาดไหนก็ไม่สามารถบอกได้เช่นกัน เนื่องจากทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินของศาลปกครองสูงสุด และคาดว่าคดีดังกล่าวน่าจะใช้เวลานานกว่าจะมีข้อสรุปในคดีนี้

 

คดีดังกล่าว นายขวัญแก้ว วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง น.พ.สงคราม ทรัพย์เจริญ แพทย์หลวง อาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประชาชนในซอยร่วมฤดีรวม 24 ราย ได้ยื่นฟ้องผู้ว่าฯ กทม.และผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ในฐานะเป็นผู้บริหารและใช้อำนาจหรือออกคำสั่งให้เอกชนก่อสร้างอาคารสูงใหญ่เกินกว่ากฎหมายกำหนด

ที่มา : bangkokbiznews.com